แก้จมูก ครั้งสุดท้าย จมูกเอียง จมูกเบี้ยว อยากทำจมูกใหม่
ในปัจจุบันการศัลยกรรมเสริมจมูกสามารถทำได้หลายวิธี หากทำไม่ถูกวิธีมักจะส่งผลให้จมูกเสียรูปทรง เช่น จมูกเอียง จมูกเบี้ยว เป็นต้น หรือบางกรณีทำออกมาแล้วไม่ถูกใจ ดูแข็งไม่เป็นธรรมชาติ หรือโด่งน้อยไป ทำให้ต้องมีการแก้ไขจมูก ทำจมูกใหม่ การแก้จมูกแต่ละเคสนั้นมีความยากแตกต่างกันออกไป การ แก้จมูก ที่ยากคือการแก้ไขจมูกที่ใกล้ทะลุ บริเวณปลายจมูกมีลักษณะบางจนใส ซึ่งการแก้จมูกนั้นสามารถทำได้โดยใช้กระดูกอ่อนหลังใบหูเสริม และไม่สามารถทำให้จมูกโด่งมากได้
ส่วนเคสที่แก้ไขจมูกได้ยากที่สุดนั้นก็คือ เคสที่เสริมจมูกโดยการฉีดซิลิโคน การแก้ไขนั้นอาจไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร เพราะซิลิโคนที่ฉีดเข้าไปจะเกาะติดเนื้อเยื่อจมูก การแก้ไขจำเป็นต้องขูดซิลิโคนออกให้หมดแล้วจึงสามารถทำจมูกใหม่ได้ ซึ่งการแก้ไขจมูกนั้นไม่สามารถทำได้ในทันที ต้องรอให้เนื้อเยื่อใหม่สร้างตัวซึ่งต้องใช้ระยะเวลา ผู้ต้องการแก้จมูก ควรเข้าพบแพทย์เพื่อขอคำปรึกษาและให้แพทย์ประเมิณอาการก่อนการแก้ไข
เลือกอ่านหัวข้อที่สนใจ
Toggleปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ทางไลน์ ฟรี!!
รีวิวแก้จมูก
สาเหตุและขั้นตอนวิธีการแก้จมูก
การแก้จมูกมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัยด้วยกัน สาเหตุที่ทำให้ต้องแก้ไขจมูกที่พบบ่อยมีดังนี้
- ซิลิโคนมีการเคลื่อนตัว เป็นสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้ต้องแก้จมูก นั้นก็คือ ซิลิโคนมีการเคลื่อนตัวไปจากตำแหน่งเดิม ซึ่งสาเหตุนี้เกิดจากการการวางซิลิโคนไม่ตรงตำแหน่ง ซิลิโคนไม่ได้มาตราฐาน หรือขนาดซิลิโคนไม่ได้สัดส่วน ทำให้จมูกเบี้ยวหรือเอียง อาจจส่งผลให้ปลายจมูกทะลุได้ อีกสาเหตุคืออาจจะเกิดจากการดูแลหลังการเสริมจมูกไม่ถูกต้อง เช่นการนอนตะเอง การกระแทก รับประทานอาหารที่แพทย์ห้าม เป็นต้น
การแก้จมูก ทำได้โดยการแพทย์จะเอาซิลิโคนเก่าออก แล้วทำการปรับแนวจมูกให้มีช่องว่าง เพื่อใส่ซิลิโคนใหม่
- อักเสบเกิดการติดเชื้อ เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ต้องแก้จมูก อาการอักเสบจมูกหรือบริเวณปลายจมูกเกิดจากร่างกายต่อต้านสิ่งแปลกปลอมจากภายนอก ซึ่งก็คือซิลิโคนนั่นเอง ดังนั้นจึงทำให้เกิดอาการอักเสบ ปลายจมูกแดง ซึ่งจะส่งผลให้ปลายจมูกบางลงด้วยอาจทำให้จมูกทะลุได้
การแก้จมูก ทำได้โดยการใช้เนื้อเยื่อจากส่วนอื่นของร่างกายมาใช้บริดวณปลายจมูก แต่ในกรณีที่ร่างกายมีการต่อต้านมากๆ เพื่อความปลอดภัยต้องนำซิลิโคนเสริมจมูกออก
- จมูกแข็งดูไม่เป็นธรรมชาติ สาเหตุนี้มักจะให้คนส่วนใหญ่ไม่พอใจและต้องการแก้จมูกเพื่อเปลี่ยนจมูกใหม่ สาเหตุนี้มักขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของแต่ละบุคคล บางคนชอบโด่งๆ พุ่งๆ บางคนไม่ชอบเพราะโด่งเกินไป ซึ่งสาเหตุนี้ทางเอเซียคลินิกจะพูดคุยกับลูกค้าก่อนทำศัลยกรรมเพื่อเลือกรูปทรงจมูกให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าเพื่อความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า จะได้ไม่ต้องเสียเวลามาแก้ไขจมูก เปลี่ยนจมูกใหม่ในภายหลัง
แก้จมูกพัง หลังทำศัลยกรรม ปลอดภัยไหม มีวิธี แก้จมูก อย่างไรบ้าง
การทำศัลยกรรมจมูก เป็นวิธีแก้ไขรูปร่างจมูกที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ถึงแม้ว่าปัจจุบันการเสริมจมูกจะมีความปลอดภัยสูง แต่อย่างไรก็ตาม ผลข้างเคียงรวมถึงความเสี่ยงต่าง ๆ หลังการผ่าตัด ก็ยังเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก หลายคนหลังเสริมจมูกแล้ว พบว่าจมูกเบี้ยว จมูกเอียง จมูกมีรูปร่างที่ผิดปกติไป ทำให้ต้องทำการแก้ไขในภายหลัง วันนี้เราลองมาดูวิธีการแก้จมูกหลังการทำศัลยกรรมจมูกกันเลยดีกว่า
ปัญหาจมูกพังที่พบได้บ่อย
- จมูกเอียง จมูกเบี้ยวจมูกเอียงหลังการผ่าตัดเสริมจมูกนั้น เป็นปัญหาหนึ่งที่พบได้บ่อย ซึ่งคนไข้สามารถตรวจสอบได้ด้วยตนเอง โดยการสังเกตจากจุดกึ่งกลางระหว่างคิ้วและหัวตา และจุดกึ่งกลางปลายจมูก โดยควรจะอยู่ตรงกับกึ่งกลางปากบน
- จมูกปลายแหลม หรือจมูกทะลุ เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้จมูกขาดความสวยงาม ทำให้รู้สึกไม่มั่นใจ สำหรับจมูกทะลุนั้น จะเป็นลักษณะของปลายแท่งซิลิโคนที่ทะลุ โดยจมูกจะมีลักษณะเป็นปลายใส ๆ ทำให้เกือบมองเห็นตัวซิลิโคนอย่างชัดเจน
- ซิลิโคนไหล เป็นปัญหาอันดับต้น ๆ สำหรับการผ่าตัดเสริมจมูก หลังจากเสริมแท่งซิลิโคนเข้าไปแล้ว ซิลิโคนเกิดการเคลื่อนตัวย้ายไปจากตำแหน่งเดิม โดยคนไข้สามารถตรวจสอบได้ด้วยตนเอง เมื่อลองโยกดูจะพบว่าซิลิโคนสามารถยกขึ้นลงได้
- จมูกติดเชื้อ ปัญหานี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน โดยมีข้อสังเกตว่า แผลบริเวณจมูกจะเกิดการบวมแดงขึ้น หากจมูกมีอาการบวมแดงเกิน 1 สัปดาห์ แสดงให้เห็นว่าจมูกกำลังเกิดการติดเชื้อ
การแก้ไขปัญหาจมูกพังหลังทำศัลยกรรมจมูก
ก่อนอื่นแพทย์จะต้องวิเคราะห์ว่าคนไข้มีปัญหาเกี่ยวกับจมูกที่เกิดขึ้นจริงหรือไม่ เพราะในบางกรณีอาจเกิดจากความกังวลใจของคนไข้เอง เมื่อทราบปัญหาที่แท้จริงแล้วแพทย์ก็จะทำการแก้ไขตามสาเหตุนั้น โดยการแก้ไขในครั้งนี้อาจจะต้องผ่าตัดเปลี่ยนแท่งซิลิโคนใหม่ และวางตำแหน่งใหม่ให้มีความเหมาะสมมากขึ้น การผ่าตัดเพื่อแก้จมูกนั้นนิยมทำการผ่าตัดแบบเปิด ซึ่งถือว่าเป็นการผ่าตัดใหญ่ มีความซับซ้อนมาก แพทย์อาจจะใช้ยาสลบในระหว่างการผ่าตัด แล้วจึงผ่าตัดจมูกออกเป็นแนวดิ่ง จนเห็นแกนจมูก แล้วจึงแยกเนื้อส่วนผิวหนังออกจากซิลิโคน แล้วจึงผ่าตัดไปตามกรณี
การดูแลตนเองหลังการผ่าตัดแก้จมูก
หลังการผ่าตัดอาจทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับการหายใจประมาณ 24 ชั่วโมง ควรประคบเย็น เวลานอนให้ยกศีรษะสูง เป็นเวลา 48 ชั่วโมง แต่อาการบวมจะยังคงอยู่ประมาณ 1 สัปดาห์ การทำความสะอาดใบหน้าในช่วง 3 วันแรกควรใช้สำลีชุบน้ำอุ่นเช็ดบริเวณใบหน้า หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่จะทำให้เกิดแรงกระแทกกับใบหน้า
การแก้จมูกหลังการทำศัลยกรรมจมูกสามารถแก้ไขได้ โดยแพทย์จะตรวจสอบจมูกแล้วแก้ไขตามสาเหตุที่เกิดขึ้น วิธีที่ได้รับความนิยมในการแก้จมูกคือการผ่าตัดเพื่อเปลี่ยนแท่งซิลิโคน แล้วจัดให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ซึ่งเป็นการผ่าตัดแบบเปิด มีความซับซ้อนมาก
จมูกทะลุ รักษาได้อย่างไรบ้าง?
การทำศัลยกรรมเสริมจมูก เพื่อทำให้รูปร่างจมูกโด่งสวยกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่ามาก แต่หลังการผ่าตัดก็อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่คาดไม่ถึง หลายคนหลังทำจมูกมาแล้ว มีปัญหาจมูกทะลุ อันเกิดจากแท่งซิลิโคนที่ใช้เสริมจมูก ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ วันนี้เราลองมาดูกันว่า จมูกทะลุเกิดจากอะไร มีวิธีการรักษาอย่างไรได้บ้าง
สาเหตุที่ทำให้จมูกทะลุ
- เนื้อจมูกบาง การเสริมจมูกจะต้องคำนึงถึงเนื้อจมูกของคนไข้ หากเป็นคนที่มีลักษณะเนื้อจมูกบาง ก็จะทำให้ไม่สามารถเสริมซิลิโคนที่มีขนาดใหญ่ได้ ดังนั้นควรเสริมจมูกให้พอเหมาะเท่านั้น แต่มีคนไข้หลายคน ที่ไม่ได้สนใจคำแนะนำของแพทย์ เมื่อเสริมจมูกเสร็จแล้ว เสริมซิลิโคนในขนาดที่ไม่เหมาะสมกับเนื้อจมูก ทำให้จมูกตึง จนทำให้จมูกทะลุได้ในที่สุด
- ใช้ซิลิโคนที่ไม่พอดี การเสริมจมูกจะต้องเลือกใช้ซิลิโคนที่มีมาตรฐาน เหมาะกับรูปร่างจมูกของเรา การใช้ซิลิโคนสำเร็จรูปที่ขึ้นรูปมาจากโรงงานส่วนใหญ่ จะมีขนาดและรูปร่างที่ไม่เหมาะกับจมูกของเรา จนทำให้เกิดความไม่พอดี อาจคับหรือหลวมมากจนเกินไป จนทำให้จมูกเกิดการทะลุได้ง่าย
- การฉีดซิลิโคนเหลว การฉีดซิลิโคนเหลวที่มีอายุการใช้งานนานเพื่อเสริมจมูกนั้น อาจทำให้ซิลิโคนที่เข้าสู่ร่างกายแข็ง หากซิลิโคนมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ก็จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงมากยิ่งขึ้น เพราะจะทำให้เกิดการอักเสบ ซิลิโคนผิดรูปร่าง มีอาการแพ้สารเคมี จนทำให้จมูกบางลง ทำให้จมูกทะลุในที่สุด
การรักษาจมูกทะลุ
- แพทย์จะผ่าตัด เพื่อนำซิลิโคนเดิมออกจากจมูก เพื่อให้จมูกได้พักและฟื้นฟูสภาพประมาณ 2 เดือน
- ในช่วงการพักฟื้น แพทย์จะนัดมาตรวจอาการ คนไข้ควรมาตามนัดของแพทย์ทุกครั้ง
- หลังจากพักฟื้นจนอาการดีขึ้นแล้ว แพทย์จะเริ่มผ่าตัดปรับแต่งจมูก โดยการใส่กระดูกอ่อนที่ได้มาจากร่างกายของตัวคนไข้เอง เช่น กระดูกอ่อนหลังใบหู เพื่อทำให้จมูกได้รูป แต่ในขั้นตอนนี้แพทย์จะยังไม่เสริมจมูก เพราะต้องรอให้จมูกกับกระดูกอ่อนเชื่อมตัวกันก่อน
- รอประมาณ 4 เดือน จากนั้นจึงเริ่มทำการศัลยกรรมเพื่อเสริมจมูกใหม่อีกครั้งหนึ่ง การเสริมจมูกในครั้งนี้จะใส่ซิลิโคนเข้าไปได้น้อยกว่าเดิม เพราะว่าเนื้อจมูกยังบางอยู่ จึงต้องลดขนาดให้เหมาะกับสภาพของหนังจมูก
- หลังจากเสริมจมูกเสร็จแล้ว จะต้องตรวจอาการจมูกเป็นประจำ เพื่อลดความเสี่ยงไม่ให้จมูกเกิดการทะลุอีกครั้งหนึ่ง
การทำศัลกรรมเสริมจมูก สามารถปรับแต่งแก้ไขรูปร่างจมูกที่ขาดสัดส่วน ให้ได้รูปสวยรับกับใบหน้าได้ แต่ก็ต้องระวังในเรื่องผลข้างเคียงที่เกิดหลังการผ่าตัด เพราะการเสริมจมูกด้วยซิลิโคน อาจทำให้จมูกทะลุได้ง่าย
Tags: แก้ไขจมูก, แก้จมูก หมอทนงศักดิ์, แก้จมูกที่ไหนดี, แต่งปลายจมูก