ทำนม ราคา เสริมหน้าอก
ต้องอ่าน ก่อนทำนม ศัลยกรรมเสริมหน้าอก
เต้านมมีความจำเป็นต่อความมั่นใจทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ดังนั้นเรามารู้จักซิลิโคนเต้านมเทียม รวมถึงการผ่าตัด เสริมหน้าอก ซึ่งมีทำจากเล็กให้ใหญ่และทำจากใหญ่ให้เป็นเล็ก และบางคนก็พอใจในขนาดแล้ว แต่ก็ต้องการแก้ไขหน้าอกคล้อยย้อยหย่อนยาน ในบางกรณีเช่นผู้ป่วยเป็นมะเร็งเต้านม จะเสริมหน้าอกหลังการผ่าตัดเต้านมทิ้งก็สามารถทำได้เช่นกัน
จุดลงแผลเสริมเต้า ไม่เศร้าถ้าเลือกถูกจุด
การผ่าตัดหน้าอกด้วยถุงเต้านมเทียมนั้นแผลที่นิยมใช้มี 3 ตำแหน่งคือ
- แผลบริเวณรักแร้
- แผลบริเวณฐานนม
- แผลรอบลานนม
ข้อดีข้อเสียของแผลรักแร้ คือ หากแผลเป็นหายโดยไม่มีภาวะแทรกซ้อนใดๆ ก็จะเป็นแผลเป็นที่แทบมองไม่เห็นเลยทีเดียว แต่สำหรับเทคนิคการผ่าตัดแล้ว การมองเห็นโดยตรงและทำได้ยาก จึงเข้าไปแก้ไขความผิดปกติของเนื้อเต้านม หรือเลาะโพรงเนื้อเต้านมได้ยาก การปรับระดับฐานเต้านม หรือในกรณีที่ต้องการผ่าตัดแก้ไขเลาะพังผืด มักจะทำได้ยากมากเช่นกัน ความเสี่ยงอีกกรณีหนึ่งก็คือ บริเวณรักแร้มีทางเดินน้ำเหลือง หากเกิดความผิดพลาด อาจทำให้มีน้ำเหลืองรั่วซึมหรือพบอาการอักเสบได้บ่อยกว่าวิธีอื่น
ข้อดีข้อเสียของแผลบริเวณฐานนม คือ เนื่องจากบริเวณนี้เป็นแผลที่นิยมใช้มากขึ้นในปัจจุบัน เพราะสามารถปรับตำแหน่งของฐานนมได้ดี เลาะโพรงแล้วมองเห็นได้ชัด ใช้ผ่าตัดแก้ไข หรือเปลี่ยนซิลิโคนได้ง่าย และยังซ่อนแผลอยู่ใต้ฐานนมได้ แต่ข้อเสียคือ ในบางกรณี แผลเป็นบริเวณฐานเต้านม อาจเห็นได้ชัดถ้าวางตำแหน่งแผลไม่ดีสูงหรือต่ำจนเกินไป หรืออาจเกิดแผลเป็นที่ผิดปกติเช่น แผลเป็นนูน คล้ำ หรือกว้างได้
ข้อดีข้อเสียของแผลรอบลานนม มีข้อดีคือ สามารถเสริมขนาดเต้านมพร้อมกับการยกกระชับเต้านม และลดขนาดปานนมได้ด้วย แต่ก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดแผลเป็นรอบๆลานหัวนม รวมทั้งอาจมีผลต่อความรู้สึกบริเวณหัวนม และมีผลต่อการให้นมบุตรได้ด้วย ปัจจุบันมีความสุขน้อยลง มักใช้ในกรณีทำร่วมกับการยกกระชับ หรือรายที่มีลานหัวนมขนาดใหญ่
รีวิวสริมหน้าอก ที่โรงพยาบาลเอเซีย
สอบถามเพิ่มเติม โทร. 02-199-9999 หรือทาง Line Official ของโรงพยาบาล
ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับถุงเต้านมเทียม
ถุงเต้านมเทียมใส่ตรงไหนของเต้านมได้บ้าง
การผ่าตัดหน้าอกด้วยถุงเต้านมเทียมแบ่งเทคนิคหลักตามกายวิภาคของหน้าอกคือสายเหนือกล้ามเนื้อคือ
- ใส่ใต้เนื้อนมโดยตรงและสายใต้ชั้นเนื้อเยื่อที่หุ้นใต้เนื้อเต้านมอีกชั้น 1
- ใส่ใต้กล้ามเนื้อคือการใส่ซิลิโคนใต้กล้ามเนื้อมัดใหญ่ทางด้านหน้าของหน้าอก
- กึ่งเหนือกึ่งใต้กล้ามเนื้อ คือครึ่งบนของถุงเต้านมอยู่ใต้เนื้อ ส่วนครึ่งเรื่องของถุงเต้านมเทียมอยู่ใต้เนื้อเต้านม
ถุงเต้านมเทียมใส่ชั้นไหนดีที่สุด
ทุกวิธีมีข้อดีและข้อเสีย ไม่มีวิธีไหนดีที่สุด ขึ้นอยู่กับความหนาของเนื้อนม คุณภาพของผิวหนัง ขนาดของซิลิโคน และความต้องการเป็นธรรมชาติมากหรือน้อย เป็นต้น
ข้อดีข้อเสียของการใส่เหนือกล้ามเนื้อ การใส่ซิลิโคนเหนือกล้ามเนื้อ มักจะเจ็บน้อยกว่า ใช้เวลาพักฟื้นสั้นกว่า เนื่องจากไม่มีการตัดกล้ามเนื้อ แต่อาจดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ เพราะมองเห็นสัน เห็นขอบเต้านมด้านบนได้ชัด โดยเฉพาะผู้ที่มีเนื้อนมน้อย และคุณภาพผิวหนังไม่ดี รวมทั้งในระยะยาวอาจเกิดเป็นริ้วได้ชัดเจน และเกิดปัญหานมแฝดตามมาได้ง่ายกว่าวิธีอื่นอีกด้วย
ข้อดีข้อเสียของการใส่ใต้กล้ามเนื้อ การใส่ซิลิโคนเต้านมเทียมใต้กล้ามเนื้อ มักดูเป็นธรรมชาติมากกว่า มีโอกาสเห็นสันและขอบบนได้น้อย เนินนมดูสวยกว่า และมีโอกาสเกิดนมแฝดน้อยกว่า แต่มีข้อจำกัด คือเนื่องจากต้องมีการเลาะตัดกล้ามเนื้อ ทำให้อาจรู้สึกเจ็บมากกว่า ใช้เวลาพักฟื้นนานกว่า เนื่องจากกล้ามเนื้อมีข้อจำกัดในการยืดขยาย จึงทำให้การจะใส่ถุงเต้านมเทียมขนาดใหญ่ทำได้ยาก นอกจากนั้น หากขยับกล้ามเนื้อหรือออกแรงใช้กำลังที่ไหล่แขนมาก อาจจะมองเห็นการเคลื่อนไหวของถุงซิลิโคนได้
ข้อดีข้อเสียของการใส่กึ่งเหนือกึ่งใต้กล้ามเนื้อ การใส่ถุงเต้านมเทียมที่บริเวณกึ่งเหนือ กึ่งใต้กล้ามเนื้อ เป็นเทคนิคที่นิยมมากขึ้น เนื่องจากยังทำให้เห็นเนินนมที่เป็นธรรมชาติ ไม่เป็นสันขอบชัดเจน และลดการเคลื่อนไหวของถุงเต้านมเทียม หากมีการใช้ไหล่แขน จนมีการหดตัวรุนแรงของกล้ามเนื้อ แต่เนื่องจากวิธีนี้ จำเป็นต้องมีการตัดกล้ามเนื้อ และเลาะเนื้อเต้านมที่จำเป็น ต้องมีการตัดกล้ามเนื้อและเลาะเนื้อเต้านมที่มากกว่าการเสริมเหนือกล้ามเนื้อ
ถุงใต้นมแบบไหนเหมาะกับใคร
การที่ซิลิโคนถูกผลิตมาหลายรูปแบบ หลายขนาด เนื่องจากหน้าอกแต่ละรูปแบบ มีความเหมาะสมกับซิลิโคนต่างกัน เช่น ทรงกลม กับทรงหยดน้ำ หรือแบบผิวเรียบ กับแบบผิวทราย เป็นต้น หากเลือกทรงกลมก็ยังมีทรงกลมพุ่งสูง ทรงกลมพุ่งกลาง หรือทรงกลมพุ่งต่ำ หรือหากเลือกทรงหยดน้ำก็ยังมีความสูงและความพุ่งแตกต่างกัน หน้าอกของบางคนต้องใส่ทรงหยดน้ำเท่านั้นถึงจะสวยเหมาะสม แต่นมบางคนไปทรงกลมหรือจะเลือกใส่ทรงหยดน้ำก็ได้ หรือศัลยแพทย์บางท่านอาจแนะนำเฉพาะทรงหรือที่ตัวเองถนัดและมั่นใจที่สุดก็ได้
ซิลิโคนถุงน้ำเกลือยังมีอยู่หรือไม่ ทำไมต้องเปลี่ยนเป็นซิลิโคน
เมื่อหลายสิบปีก่อน ถุงเต้านมเทียมที่นิยมใช้คือถ้าเป็นซิลิโคนผิวเรียบ และส่วนประกอบภายในเป็นน้ำเกลือ แต่มีปัญหาคือถุงน้ำเกลือมีอายุการใช้งานสั้น เพราะมีการแตกรั่วซึมง่าย รวมทั้งรูปร่างไม่ค่อยคงที่ เกิดเป็นผิวคลื่นได้ง่าย และการสัมผัสลักษณะคล้ายมีน้ำกระฉอกอยุ่ในตัว ต่อมาจึงมีการพัฒนารูปแบบของซิลิโคนเจล ให้มีความหนึบ ทนทาน ปลอดภัย เป็นธรรมชาติมากขึ้น จึงเป็นที่นิยมมากขึ้นในปัจจุบัน
ซิลิโคนผิวเรียบ กับซิลิโคนผิวทราย แตกต่างกันอย่างไร
ซิลิโคนผิวเรียบ คือ ผิวที่สัมผัสเรียบ ส่วนซิลิโคนผิวทราย มีความหยาบน้อยไปจนถึงความหยาบมาก เหตุผลที่ทำผิวหยาบนั้น เชื่อว่าจะช่วยลดพังผืด แต่จากผลงานวิจัยภายหลังพบว่าไม่เป็นจริงตามนั้นเสมอไป เพราะปัจจุบันพบปัญหาได้ทั้งซิลิโคนเทียบและซิลิโคนทราย
เสริมหน้าอกควรใส่ซิลิโคนขนาดเท่าไรจึงจะเหมาะสม
ขนาดของซิลิโคน ซึ่งแตกต่างกัน มาจาก 3 ปัจจัยหลัก คือ ความชอบของแต่ละบุคคล ความเหมาะสมของกายวิภาคหน้าอก และประสบการณ์ความชอบของศัลยแพทย์ ขนาดของซิลิโคนแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อ มีความแตกต่างกัน บางรุ่นขนาด 25 ซีซี บางรุ่นทุก 30 ซีซี หรือบางรุ่นก็ไม่แน่นอน ในความเป็นจริงถ้าจะแนะนำว่าไม่ควรใส่ซิลิโคนขนาดใหญ่จนเกินไป
นมลักษณะแบบใดที่เหมาะกับทรงหยดน้ำ
แม้ในความจริง จะไม่มีสูตรตายตัวในการเลือกทรงเวลาเสริมหน้าอก แต่โดยทั่วไปลักษณะนมที่เหมาะจะเลือกทรงหยดน้ำ คือ
- เนื้อเต้านมที่น้อยมากๆ จึงต้องการทรงดูธรรมชาติ
- มีความคล้อยร้อยเล็กน้อย ต้องการยกกระชับขึ้น
- มีภาวะเต้านมผิดปกติ แบบทรงมะละกอ
- มีภาวะเนื้อฐานนมน้อย
- หลังการผ่าตัดเต้านม จากเนื้องอก หรือฟิลเลอร์ เป็นต้น
- ความต้องการโดยตรงของผู้รับบริการที่ต้องการรูปทรงนี้
ทำไมนมสองข้างไม่เท่ากัน
การที่หน้าอก 2 ข้างดูไม่เท่ากัน อาจไม่ได้เกิดจากเนื้อเต้านมที่ไม่เท่ากันเพียงอย่างเดียว แต่อาจเกิดจากกระดูกซี่โครง และกระดูกหน้าอกที่ไม่เท่ากัน โดยปกติของผู้หญิงเต้านมทั้งสองข้าง จะไม่เท่ากันอยู่แล้ว เช่น บางรายหน้าอกข้างซ้ายใหญ่และสูงกว่าหน้าอกด้านขวา เนื่องจากหัวใจอยู่ด้านซ้าย ทำให้หน้าอกด้านซ้ายมีความนูนกว่าด้านขวาเล็กน้อย เป็นต้น หรือบางราย มีความผิดปกติในการเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อ หรือมีภาวะบุ๋ม เป็นต้น
การใส่ซิลิโคนเสริมหน้าอกใหญ่เกินไปมีผลเสียอะไรบ้าง
ผลเสียจากการเสริมหน้าอกแล้วใส่ซิลิโคนใหญ่เกินไป จะมีผลเสียทั้งในระยะสั้นและระยะยาว สำหรับในระยะสั้น นั้นเนื่องจากซิลิโคนขนาดใหญ่ ทำให้ต้องรับโรงขนาดใหญ่ขึ้น จึงมีโอกาสที่จะตัดเส้นเลือดเส้นประสาทกล้ามเนื้อมากกว่า จนทำให้เกิดอาการชา เลือดออก และเจ็บปวดได้มากกว่า
ส่วนในระยะยาวคือโอกาสเกิดผลแทรกซ้อน เช่น ผิวหนังแตกลาย หนังยืดคราก เต้านมห้อยย้อยคล้อยต่ำ หัวนมและเต้านมชาไม่มีความรู้สึก นมกลายเป็นลอนๆ และมองดูเป็นนมปลอม เนื่องจากเห็นสันขอบชัด คลำได้ขอบบริเวณด้านข้างและด้านใน บริเวณเต้านมเป็นลอนเหมือนผ้ายับ หรือผ้าม่าน รวมถึงเกิดพังผืดได้ง่าย เป็นต้น
นอกจากนี้ การแก้ไขผลแทรกซ้อนที่เกิดจากการใส่ถุงเต้านมขนาดใหญ่นั้น ก็ทำได้ยาก และอาจต้องแลกมากับแผลผ่าตัดขนาดใหญ่ หรือหลายกรณีไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีก เนื่องจากผิวหนังและเนื้อเยื่อได้ถูกทำลายไปแล้ว
อายุเท่าไหร่จึงจะเสริมนมได้
โดยปกติควรทำนมเมื่อเต้านมมีการเจริญเติบโตเต็มที่ หรือมีลักษณะคงที่แล้ว โดยทั่วไปมักจะอายุเกิน 18 ถึง 21 ปีไปแล้ว
หลังมีบุตรเสริมหน้าอกได้หรือไม่
แม้ว่าคุณจะเป็นคนที่มีลูกแล้วก็สามารถเสริมหน้าอกได้ แต่เวลาที่เหมาะสมที่สุด คือหลังจากลูกหย่านม หรือหลังหยุดปั้มนมแล้วอย่างน้อย 3 ถึง 6 เดือน เพื่อให้เต้านมกลับมาอยู่ในภาวะปกติมากที่สุด
หลังเสริมนมแล้วให้นมลูกได้หรือไม่
โดยปกติแล้วสามารถให้นมลูกได้แน่นอน แต่บางรายงานพบว่าปริมาณน้ำนมออกน้อยลงได้บ้าง โดยเฉพาะหากมีภาวะแทรกซ้อนหลังการผ่าตัด หรือหากใช้วิธีผ่าตัดโดยลงแผลผ่านทางลานหัวนม หรือมีการยกกระชับเต้านมร่วมด้วย
เตรียมตัวอย่างไรก่อนเข้ารับการผ่าตัดเสริมหน้าอก
ก่อนเข้ารับการผ่าตัดเสริมหน้าอก ควรงดบุหรี่และสุราอย่างน้อย 3 สัปดาห์ งดยาวิตามินหรืออาหารเสริมที่ไม่ทราบส่วนประกอบ ที่สำคัญคือก่อนเข้ารับการผ่าตัด ควรตรวจสอบว่าทำการผ่าตัดในสถานพยาบาล และห้องผ่าตัด ที่ได้รับการรับรอง รวมทั้งมีเครื่องมืออุปกรณ์ในการดมยาสลบ ระงับปวด พร้อมวิสัญญีแพทย์และพยาบาลให้บริการหรือไม่ และหากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น มีมาตรการรับแก้ไข หรือส่งต่ออย่างไร
ในวันผ่าตัด แนะนำให้งดดื่มชา กาแฟ โกโก้ หรือน้ำอัดลม เนื่องจากอาจมีผลต่อการผ่าตัด ควรทานอาหารอ่อน และงดน้ำงดอาหารอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง หากมีประวัติการแพ้ยา หรือมีโรคประจำตัวต้องแจ้งให้แพทย์ทราบทุกครั้ง
การฉีดฟิลเลอร์เสริมหน้าอกอันตรายอย่างไร
ฟิลเลอร์ที่ถูกเติมบริเวณเต้านม ถือว่าอันตรายมาก แตกต่างจากการเติมฟิลเลอร์ที่ใบหน้า เนื่องจากหากต้องฉีดเพิ่มขนาดเต้านมแล้วนั้น ต้องฉีดฟิลเลอร์เป็นปริมาณมาก และฟิลเลอร์มักไม่สามารถสลายเองได้ แต่จะตกค้างและทำปฏิกิริยากับเนื้อเต้านม กล้ามเนื้อ และผิวหนังบริเวณทรวงอก จนเกิดการอักเสบ ไม่ว่าจะเป็นในระยะสั้นหรือระยะยาว
หลายกรณี คนไข้ต้องลงเอยด้วยการตัดเต้านมทิ้ง เป็นที่ทุกข์ทรมานยิ่งนัก ส่วนรายที่ยังไม่มีการอักเสบหรือแตกทะลุก็จะเกิดปัญหา ไม่สามารถตรวจคัดกรองโรคมะเร็งเต้านม หรือก้อนมะเร็งที่เต้านมได้อีกเลยตลอดชีวิต และไม่มีวันรู้เลยว่า สิ่งแปลกปลอมที่อยู่บริเวณเต้านมทั้งสองข้างนั้น วันใดจะเกิดปัญหาขึ้นมาอีก
ท่อระบายเลือดหรือการใส่เดรน (drain) จำเป็นหรือไม่
การใส่เดรน ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในแต่ละกรณี และความชอบของศัลยแพทย์ การใส่เดรนนั้นไม่จำเป็นในทุกรายเสมอไป แต่เดรนก็อาจช่วยเพิ่มความปลอดภัย ช่วยระบายน้ำในโพรง และสามารถช่วยตรวจสอบได้ว่า บริเวณที่ผ่าตัดเสริมหน้าอกนั้นเรียบร้อยดีหรือไม่
อาการชาหลังผ่าตัดเสริมนมเกิดขึ้นได้อย่างไรและอีกนานขนาดไหนจึงจะหาย
อาการชามักเกิดจากเส้นประสาทโดนตัดขาด ซึ่งมักต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3 ถึง 6 เดือน ความรู้สึกจึงจะค่อยๆ กลับมาใกล้เคียงปกติได้ แต่ก็อาจเกิดอาการชาถาวรได้เช่นกัน บางกรณีการชาเกิดจากการบวมตึง ซึ่งในกรณีนี้มักจะหายช้าภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์
อาการเสียวแปล๊บหลังผ่าตัดเสริมหน้าอก
หลังการผ่าตัดแล้วมีอาการเสียวแปล๊บ ซึ่งมักเกิดจากเส้นประสาทถูกดึงยึด หรือปลอกเส้นประสาทได้รับบาดเจ็บ อาการเหล่านี้มักจะดีขึ้นในเวลาไม่กี่สัปดาห์
การนวดหลังเสริมหน้าอกจำเป็นหรือไม่
ศัลยแพทย์แต่ละท่านมีเทคนิค หรือความถนัดแตกต่างกัน เช่นหากผ่าตัดโดยใส่เหนือกล้ามเนื้อมักจะต้องมีการนวดตามมาในภายหลัง ขณะที่การผ่าตัดโดยใส่ใต้กล้ามเนื้อ ไม่จำเป็นต้องใช้การนวด
อย่างไรก็ดี ไม่แนะนำให้นวดรุนแรง เนื่องจากอาจเกิดการฉีกขาดของแคปซูล และเนื้อเยื่อที่หุ้มถุงเต้านมเทียม หากต้องการนวด ควรทำเพียงดันเบาๆ เข้าด้านใน หรือนวดไปรอบๆ ก็เพียงพอ ในหลายๆ กรณีอาจไม่ต้องนวดเลยด้วยซ้ำ
ท่านอนหลังเสริมหน้าอก ต้องนอนอย่างไร
ท่านอนที่แพทย์แนะนำหลังผ่าตัดเสริมหน้าอก คือ ควรนอนหงาย จะนอนราบเลยก็ได้ หรืออาจนอนหัวสูงเพียงเล็กน้อย แต่ก็ไม่มีความจำเป็นนัก การนอนหงายแนะนำในช่วงประมาณ 1 ถึง 3 สัปดาห์แรก หากผู้รับการผ่าตัดเสริมหน้าอก มีอาการเมื่อย อาจตะแคงได้บ้าง แต่ไม่แนะนำให้นอนคว่ำ รวมถึงแม้ในเวลาจะนอน ก็ควรใส่เสื้อชั้นในด้วย ในช่วงสัปดาห์แรกๆ หลังผ่าตัด
ลานนมใหญ่ สามารถผ่าตัดลดขนาดลานนมได้หรือไม่
การลดขนาดลานนม สามารถทำได้ และอาจทำได้ด้วยการฉีดยาชาก็เพียงพอ แต่มักจะต้องมีแผลรูปวงกลมรอบลานหัวนม หลังผ่าตัดอาจมีรอยย่นบ้าง ซึ่งใช้เวลา 2-3 เดือน จึงเริ่มเรียบได้ ต้องระวังการเกิดแผลเป็นนูน ในบางกรณีอาจเป็นการผ่าตัดร่วมกับการยกกระชับเต้านมก็ได้
หัวนมใหญ่ สามารถลดขนาดหัวนมได้หรือไม่
การลดขนาดหัวนม สามารถทำได้เช่นกัน และมักทำด้วยการฉีดยาชา แต่ข้อควรระวังคือ ในผู้ที่อายุน้อย อาจมีผลต่อการให้นมลูก เพราะการผ่าตัดอาจต้องตัดทำลายท่อน้ำนมบางส่วน นอกจากนั้นแผลผ่าตัดบริเวณหัวนมอาจมีผลต่อความรู้สึกได้
หัวนมบอด แก้ไขได้อย่างไร
หัวนมบอด ขึ้นอยู่กับระดับว่าเป็นมากหรือน้อย หากเป็นน้อย อาจแก้ไขด้วยการดึง หรือฉีดไขมัน พร้อมกับลงแผลเล็กๆ เพื่อเลาะพังผืดก็เพียงพอ แต่หากเป็นระดับที่บุ๋มลึก การผ่าตัดต้องใช้วิธีที่ซับซ้อนขึ้น แผลผ่าตัดอาจยากและใหญ่ขึ้น รวมทั้งมีความเสี่ยงต่อความรู้สึก และการให้นมลูกในอนาคต
สอบถามเพิ่มเติม โทร. 02-199-9999 หรือทาง Line Official ของโรงพยาบาล